--------------------------------------------------------------------------
ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสำนักหอสมุดแห่งชาติ
ไม้ไต่เขียน ,POCKET HE BOOK,กรุงเทพฯ : ไม้ไต่เขียน,2546.196 หน้า
--------------------------------------------------------------------------------
ความคิดของคนก็เหมือนกับมีด ดีที่สุดคือคม แต่ธรรมชาติของมีดหากจะให้คมจะต้องลับกับหินลับมีดความเรียบลื่นของมีดเมื่อเจอกับพื้นผิวที่หยาบและขรุขระของหินทรายความหยาบจะขูดผิวมีดให้บางลงและมีดจะคมขึ้น ความแตกต่างก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นนั่นคือ มีด
ไม่ใช่ว่าความคิดสร้างสรรค์จะไม่มีกฎเกณฑ์ เหมือนกับขนาดของผ้าใบที่ artist เขา paint มันก็เป็นกรอบ เป็นกฎเกณฑ์รูปแบบหนึ่งเหมือนกัน มันอาจเป็นตัวกำหนดอะไรหลายๆอย่าง มันบอกว่าเราควรจะวาดรูปอะไร ผมว่า
กฎเกณฑ์ไม่มีซะเลยมันก็ไม่ได้
กฎเกณฑ์ไม่มีซะเลยมันก็ไม่ได้
ถ้าคนเราคิดจะทำงานอะไรก็แล้วแต่ที่ไม่เหมือนชาวบ้าน มันก็ต้องคิดที่จะใช้ชีวิตไม่เหมือนชาวบ้าน มันเป็นจุดเริ่มต้นง่ายๆ การที่คุณคิดอะไรไม่เหมือนชาวบ้านพูดภาษาต่างจากชาวบ้าน มีไลฟ์สไตล์ต่างจากชาวบ้าน
จากครีเอทีฟไดเร็คเตอร์มือทองมาเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์มือทอง ผู้ที่ทำให้ความหมายของวงการโฆษณาแจ่มชัดขึ้น ความเห็นของเขาทุกประโยคจึงไม่อาจมองข้ามโดยเฉพาะเมื่อเขาพูดถึงระบบความคิดสร้างสรรค์
คนที่ทำงานศิลปะ มีอยู่สองประเภท คือคนที่มีพรสวรรค์เกิดมาเพื่อเป็น คือ born to be (เกิดมาเก่ง) กับคนที่เกิดมาแบบ want to be (อยากเก่ง) อาจารย์ให้น้ำหนักกับส่วนไหนมากกว่ากัน
ในโลกเรานี้ คนที่เป็นใหญ่ขึ้นมาได้ ส่วนหนึ่งเขาทำขึ้นมาด้วยความตั้งใจจริง เพื่อจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ แต่มีอีกหลายส่วนเหลือเกิน ที่มันยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้เพราะอีโก้ของตัวเอง
คนโบราณที่เขาทำความรู้ไว้ให้เรา เราได้ไปเรียนรู้แล้วเอาสิ่งนั้นมาหากินของเราอย่างทุกๆ วันนี้ แต่ทีนี้ปัญหามันมีอยู่ว่ามนุษย์ จะหยุดไว้แค่นี้หรอ
ต้องมีความบากบั่นพยายาม มันถึงจะเกิดเป็นความสำเร็จ ถ้าเราคิดได้เท่านี้แล้วนึกกับตัวเองว่า เออ มันก็ดีแล้ว...ยังหรอกครับ สำหรับคำว่า ครีเอทีฟ แล้ว...มันยังไม่จบ
ในโลกนี้มีอยู่สองทางเท่านั้นที่จะยังให้เรารอดชีวิตชีวิตได้หนึ่งคือต้องอยู่ด้วยทัศนคติที่ว่า....ในโลกนี้ไม่มีอัศจรรย์ใดๆคอยช่วย อีกหนึ่งคืออยู่ด้วยทัศนคติที่ว่า...ทุกสิ่งในโลกล้วนเป็นมหัศจรรย์
เมื่อความคิดสร้างสรรค์ผุดขึ้นไม่ว่าจะเดินทางมาจากแรงบันดาลใจที่แปลกหรือวิธีคิดพิสดารล้ำลึกเพียงใดก็ตามทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามเพราะใครจะรู้ว่า แค่เปลี่ยนชีวิตจากแบบเดิม หรือเปลี่ยนอาหารจากเมนูซ้ำๆก็อาจเป็นที่มาของความคิดใหม่ๆได้
บางตัวอย่างของเรื่องราวดีๆที่น่าชื่นชม น่ายกย่อง น่าจดจำ ทำให้เชื่อว่า เบื้องหลังทุกความคิดมีการเดินทางซึ่งน่าสนใจเกินกว่าที่เราจะอ่านแล้วผ่านเลย ใครหนอจะรู้ เพียงแรงศรัทธาในคุณค่าของความคิด จะเป็นพลังวิเศษ ที่คอยผลักดันให้เกิดการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆเพื่อจรรโลงให้บางมุมของโลกงดงามขึ้นกว่าที่เคยเป็น
คนที่ทำงานศิลปะ มีอยู่สองประเภท คือคนที่มีพรสวรรค์เกิดมาเพื่อเป็น คือ born to be (เกิดมาเก่ง) กับคนที่เกิดมาแบบ want to be (อยากเก่ง) อาจารย์ให้น้ำหนักกับส่วนไหนมากกว่ากัน
ในโลกเรานี้ คนที่เป็นใหญ่ขึ้นมาได้ ส่วนหนึ่งเขาทำขึ้นมาด้วยความตั้งใจจริง เพื่อจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ แต่มีอีกหลายส่วนเหลือเกิน ที่มันยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้เพราะอีโก้ของตัวเอง
คนโบราณที่เขาทำความรู้ไว้ให้เรา เราได้ไปเรียนรู้แล้วเอาสิ่งนั้นมาหากินของเราอย่างทุกๆ วันนี้ แต่ทีนี้ปัญหามันมีอยู่ว่ามนุษย์ จะหยุดไว้แค่นี้หรอ
ต้องมีความบากบั่นพยายาม มันถึงจะเกิดเป็นความสำเร็จ ถ้าเราคิดได้เท่านี้แล้วนึกกับตัวเองว่า เออ มันก็ดีแล้ว...ยังหรอกครับ สำหรับคำว่า ครีเอทีฟ แล้ว...มันยังไม่จบ
ในโลกนี้มีอยู่สองทางเท่านั้นที่จะยังให้เรารอดชีวิตชีวิตได้หนึ่งคือต้องอยู่ด้วยทัศนคติที่ว่า....ในโลกนี้ไม่มีอัศจรรย์ใดๆคอยช่วย อีกหนึ่งคืออยู่ด้วยทัศนคติที่ว่า...ทุกสิ่งในโลกล้วนเป็นมหัศจรรย์
เมื่อความคิดสร้างสรรค์ผุดขึ้นไม่ว่าจะเดินทางมาจากแรงบันดาลใจที่แปลกหรือวิธีคิดพิสดารล้ำลึกเพียงใดก็ตามทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามเพราะใครจะรู้ว่า แค่เปลี่ยนชีวิตจากแบบเดิม หรือเปลี่ยนอาหารจากเมนูซ้ำๆก็อาจเป็นที่มาของความคิดใหม่ๆได้
บางตัวอย่างของเรื่องราวดีๆที่น่าชื่นชม น่ายกย่อง น่าจดจำ ทำให้เชื่อว่า เบื้องหลังทุกความคิดมีการเดินทางซึ่งน่าสนใจเกินกว่าที่เราจะอ่านแล้วผ่านเลย ใครหนอจะรู้ เพียงแรงศรัทธาในคุณค่าของความคิด จะเป็นพลังวิเศษ ที่คอยผลักดันให้เกิดการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆเพื่อจรรโลงให้บางมุมของโลกงดงามขึ้นกว่าที่เคยเป็น
สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันสอดคล้อง 9 คำที่พ่อสอนดังนี้
1.ความเพียร
เราหัดคิดจากสมองด้านขวาแล้วเสริมพลังด้วยความคิดจากสมองด้านซ้ายจะทำให้เรามีโอกาสเป็นอัจฉริยะสูงสุด
เราหัดคิดจากสมองด้านขวาแล้วเสริมพลังด้วยความคิดจากสมองด้านซ้ายจะทำให้เรามีโอกาสเป็นอัจฉริยะสูงสุด
2.ความพอดี
ไม่มีอะไรดีไปกว่าการใช้ชีวิตในแบบตัวของตัวเองเพราะการใช้ชีวิตในแบบตัวของเรานั่นนอกจากจะทำให้เรามีความสุขแล้วยังทำให้คนรอบข้างมีความสุขด้วยแต่ก็ไม่ควรทำอะไรเกินเลยเพราะอาจจะทำให้ผู้อื่นรำคาญได้
ไม่มีอะไรดีไปกว่าการใช้ชีวิตในแบบตัวของตัวเองเพราะการใช้ชีวิตในแบบตัวของเรานั่นนอกจากจะทำให้เรามีความสุขแล้วยังทำให้คนรอบข้างมีความสุขด้วยแต่ก็ไม่ควรทำอะไรเกินเลยเพราะอาจจะทำให้ผู้อื่นรำคาญได้
3.ความรู้ตน
คนเราที่เป็นใหญ่ขึ้นมาได้นั้นเกิดจากความตั้งใจจริง มีความรู้ มีความพยายามถึงจะช่วยเหลือผู้อื่นได้และสามารถช่วยเหลือตัวเองได้เวลาลำบาก
คนเราที่เป็นใหญ่ขึ้นมาได้นั้นเกิดจากความตั้งใจจริง มีความรู้ มีความพยายามถึงจะช่วยเหลือผู้อื่นได้และสามารถช่วยเหลือตัวเองได้เวลาลำบาก
4.คนเราจะต้องรับและจะต้องให้
ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆทุกอย่างได้มาจากความตั้งใจและความช่วยเหลือหากเวลาเราเห็นคนอื่นเดือดร้อนเราก็เข้าไปช่วยเหลือเข้าไปดูแลเวลาถึงคราวลำบากของเราคนอื่นก็จะได้มาช่วยเหมือนที่เราช่วยเขาไป
ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆทุกอย่างได้มาจากความตั้งใจและความช่วยเหลือหากเวลาเราเห็นคนอื่นเดือดร้อนเราก็เข้าไปช่วยเหลือเข้าไปดูแลเวลาถึงคราวลำบากของเราคนอื่นก็จะได้มาช่วยเหมือนที่เราช่วยเขาไป
5.อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ
แรงศรัทธาในชีวิตคือคุณค่าของความคิดและจะเป็นพลังวิเศษที่จะคอยผลักดันให้เราประสบความสำเร็จ
แรงศรัทธาในชีวิตคือคุณค่าของความคิดและจะเป็นพลังวิเศษที่จะคอยผลักดันให้เราประสบความสำเร็จ
6.พูดจริงทำจริง
คือสมบัติของผู้ดีจะช่วยทำให้เราเป็นที่น่าเชื่อหากพูดความจริงแต่ถ้าพูดโหกก็อาจจะทำให้ผู้อื่นไม่เชื่อใจและไม่ไว้วางใจเราไปตลอดเวลาเกิดเรื่องเดืออร้อนผู้อื่นอาจจะไม่เชื่อเราและจะทำให้เราเกิดอันตรายได้
คือสมบัติของผู้ดีจะช่วยทำให้เราเป็นที่น่าเชื่อหากพูดความจริงแต่ถ้าพูดโหกก็อาจจะทำให้ผู้อื่นไม่เชื่อใจและไม่ไว้วางใจเราไปตลอดเวลาเกิดเรื่องเดืออร้อนผู้อื่นอาจจะไม่เชื่อเราและจะทำให้เราเกิดอันตรายได้
7.หนังสือเป็นออมสิน
ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเราคือบทพิสูจน์ที่จะดูว่าเรามีความคิดเป็นของตัวเองรึเปล่า มีความพยายามหรือไม่ คนเราไม่ได้เกิดมาแล้วมีดีไปตลอดเราเกิดมาอาจมีข้อผิดพลาดก็ได้ทางที่ดีที่สุดคือพยายามต่อไปแล้วจะทำให้เราประสบความสำเร็จทันที
ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเราคือบทพิสูจน์ที่จะดูว่าเรามีความคิดเป็นของตัวเองรึเปล่า มีความพยายามหรือไม่ คนเราไม่ได้เกิดมาแล้วมีดีไปตลอดเราเกิดมาอาจมีข้อผิดพลาดก็ได้ทางที่ดีที่สุดคือพยายามต่อไปแล้วจะทำให้เราประสบความสำเร็จทันที
8.ความซื่อสัตย์
เป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเราอยู่ตลอดเวลาหากเราขาดความซื่อสัตย์ก็จะทำให้เราเป็นคนเห็นแก่ตัวไม่เป็นที่พอใจของผู้คนก็เหมือนการทำข้อสอบหากเราไม่ทำเองก็จะทำให้เราขาดความซื่อสัตย์ทันที
เป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเราอยู่ตลอดเวลาหากเราขาดความซื่อสัตย์ก็จะทำให้เราเป็นคนเห็นแก่ตัวไม่เป็นที่พอใจของผู้คนก็เหมือนการทำข้อสอบหากเราไม่ทำเองก็จะทำให้เราขาดความซื่อสัตย์ทันที
9.การเอาชนะใจตน
คนเราจะต้องมีความบากบั่นพยายามแล้วจะทำให้เราจะทำให้เราประสบความสำเร็จในชีวิต
คนเราจะต้องมีความบากบั่นพยายามแล้วจะทำให้เราจะทำให้เราประสบความสำเร็จในชีวิต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น