Born to be สัตวแพทย์ 2013-2014



---------------------------------------------------------------------

ข้อมูลบรรณานุกรมของสำนักหอสมุดแห่งชาติ

 น.สพ.กิติกร   เกียรติยิ่งอังศุลี,สพ.ญ.ธวัลรัตน์  เกียรติยิ่งอังศุลี. Born to be สัตวแพทย์  2013-2014.กรุงเทพฯ .บายยัวร์เซลฟ์ (ByYourself), สนพ.2556.344 หน้า.

1.เส้นทางสู่การเป็นสัตวแพทย์                              2.เรียนยังไง?ได้เป็นสัตวแพทย์
3.ติดยศ น.สพ.(สพ.ญ.)พร้อมออกปฏิบัติการ         4.ทุนศึกษาต่อต่างประเทศ

                                    ---------------------------------------------------------------------

          ขอบข่ายงานของสัตวแพทย์นั้นค่อนข้างกว้างมาก ดังนั้นกว่าจะเรียนจบออกมาเป็นสัตวแพทย์เต็มๆตัวได้นั้น จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเพราะการเรียนการสอนคระสัตวแพทย์ศาสตร์นั้นมีเนื้อหาและระยะเวลาการเรียนที่ยาวนานถึง 6 ปี เมื่อเรียนจบออกไปจะได้เป็นสัตวแพทย์ที่มีคุณภาพพร้อมที่จะเป็นฟันเฟืองหนึ่งในการพัฒนาประเทศต่อไป

      เส้นทางสู่การเป็นสัตวแพทย์ ปัจจุบันระบบการคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาในระดับมหาลัย มีหลายช่องทางด้วยกัน การสอบเข้าคณะสัตวแพทย์ก็เช่นกันโดยหลักๆแล้วจะมี 2 ช่องทาง ได้แก่ ระบบตรง(การสอบตรง/โควต้า/โครงการ) และระบบแอดมินชั่นกลาง (เป็นเอนทรานซ์ระบบใหม่)

    โดยรวมแล้ว วิชาในชั้นปีที่หนึ่งนั้นจะเป็นวิชาพื้นฐานที่เกือบทุกคณะที่มาจากกลุ่มสายวิทย์จะต้องเรียนไม่ว่าจะเป็นเคมี  ฟิสิกส์  ชีวะ  และภาษาอังกฤษ
   
     ในการเรียนแล็บของวิชานี้ จะมีการเรียนกับสัตว์ทดลองมากกว่าที่ผ่านๆมาเนื่องจากในการเรียนเกี่ยวกับผลของยา ยังไงก็จำเป็นที่ต้องใช้สัตว์ทดลองในการติดตามผล แต่เนื่องจากสัตวืมันพูดไม่ได้ ดังนั้นการติดตามผลจึงมาจากการสังเกตของอาการ

            วิชาเลือกทางสัตวแพทย์  แต่หลักๆจะเป็นกลุ่มวิชาดังนี้

     -การจัดการสุขภาพสัตว์เล็ก                                         -หลักอายุรศาสตร์สัตว์ทดลอง
     -หลักอายุรศาสตร์สัตว์ป่า                                             -การจัดการและเพิ่มผลผลิตฟาร์มสุกร
     -หลักการจัดการและเพิ่มผลผลิตในฟาร์มโคนม           -หลักการจัดการและเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำ
                                                -หลักการจัดการและะเพิ่มผลผลิตสัตว์ปีก

                           A B C Emergency
     A-airway (ท่อทางเดินหายใจ) ว่าโล่งหรือหายใจได้หรือไม่
     B-breathing (การหายใจ) คือรูปแบบของการหายใจ
     C-circulation (ระบบหมุนเวียนโลหิต) รวมการทำงานของหัวใจ เเพื่อให้มีเลือดเพียงพอต่อการทำงานทุกส่วนในร่างกาย

      สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันสอดคล้อง ๙ ข้อพ่อสอนไว้ด้านต่างๆดังนี้

1.ความเพียร  
         น.สพ.กิติกร เขารู้ว่าการเป็นสัตวแพทย์ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เขาก็ทำความเข้าใจกับการเรียนการศึกษาของตนเพื่อให้ประสบความสำเร็จ
2.ความพอดี 
         น.สพ.กิติกรใช้ความรู้ที่ตนมีในการศึกษาและค้นคว้าหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ
3.ความรู้ตน 
         น.สพ.กิติกรจะทำตามกฏระเบียบของมหาลัยเพื่อให้ตนได้สำเร็จตามเป้าหมาย
4.คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ 
         น.สพ.กิตกรเลือกที่จะเป็นสัตวแพทย์เพื่อจะได้ดูแลและรักษาสัตว์ตามที่ตนหวังไว้ 
5.อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ 
         น.สพ.กิติกรยอมเลือกที่จะรักษาสัตว์ทั้งๆที่รู้ว่าสัตว์นั้นมีขนาดเล็กและทำการรักษายากแต่เขาเลือกที่จะทำเพื่อให้เจ้าของมีความสุข
6.พูดจริงทำจริง 
         น.สพ.กิติกรตั้งใจที่จะเป็นสัตวแพทย์ให้ได้เพื่อให้แม่ของเขามีความสุขและสุดท้ายเขาก็ทำตามความหวังที่ตนตั้งไว้จนได้
7.หนังสือเป็นออมสิน 
        น.สพ.กืตืกรเป็นแรงกำลังใจสำหรับผู้ที่อยากเป็นสัตวแพทย์เพื่อให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายโดยถ้าอยากเป็นสัตวแพทย์ต้องมีใจรัก
8.ความซื่อสัตย์ 
        น.สพ.กิติกรเลือกที่จะรักษาสัตว์ด้วยความเต็มใจและยอมทำใหเจ้าของสัตว์เชื่อใจและไว้ใจได้ว่าสัตว์ของตนจะรอด
9.การเอาชนะใจตนเอง 
        น.สพ.กิติกรตั้งปฏิญาณที่จะเป็นสัตวแพทย์ให้ได้โดยตั้งใจศึกษาเล่าเรียนจนจบทั้งๆที่ตนเองต้องเหนื่อยมากน้อยเพียงใดแต่เขาก็สามารถเรียนจบได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น